เรื่องราววันนี้ (29 กันยายน 2556) เป็นเรื่องราวของเด็กวัยรุ่น 3 คน ซึ่งมีตัวผม และเพื่อนร่วมห้องอีก 2 คน โดยทั้งหมดได้นั่งรถไฟขบวนรถชานเมือง 388 (ฉะเชิงเทรา-กรุงเทพ) ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางในครั้งนี้
ขบวนรถชานเมือง 388 เป็นขบวนรถไฟฟรีเพื่อประชาชน ซึ่งเป็นขบวนรถที่มีเด็กนักเรียนที่ไปเรียนพิเศษเข้ากรุงเทพมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นที่ตึกวรรณสรณื หรือ สยามพารากอนก็ดี แต่ครั้งนี้แทนที่ผมจะลงสถานีืที่เป็นป้ายหยุดรถ พญาไท ซึ่งเป็นสถานีป้ายหยุดรถที่สามารถต่อ รถไฟฟ้า BTS ได้ แต่พวกผมเลือกที่จะลงที่สถานีลาดกระบัง ซึงต่อ Airport Rail Link จากลาดกระบัง ไป พญาไท ในราคา 40 บาท ทั้งหมด 3 คน ก็ร้อยยี่สิบบาท และก็ต้องต่อรถไฟฟ้า BTS จากพญาไท ไป สิ้นสุดที่หมอชิต ในราคา 34 บาท และก็ลงมาที่สวนจตุจักร
และในที่สุดเราก็มาถึงสวนจตุจักร แต่มีคนแปลกหน้าคนหนึ่งเดินเข้ามา แล้วพาเราไปในห้าง เจ เจ มอลล์ ในเวลา 9.30น.และที่ไปก็คิดว่าเป็นอะไร? เข้าไปก็เป็นคอนเสิร์ต คอนเสิร์ตหนึ่ง เป็นคอนเสิร์ตรำลึกถึงพระเจ้าของศาสนาคริสต์ (เอ๊ะ! ยังไง) คือพวกผมทั้ง 3 คนเป็นคนพุทธครับ ไอ้ส่วนที่ผมเข้าใจ เช่น รึาลึกพระเจ้า ศีลมหาสนิท พวกนี้ผมเข้าใจ แต่ในเวลานั้นผมงงตรงที่ว่า ผมเป็นคนพุทธ แล้วพอคอนเสิร์ตจบก็หลายๆ คนคืดว่าพวกผมเป็นคนพิเศษ แบบว่า คล้ายไปงานแต่งงานตามโรงแรม 5 ดาว ไปงานสังคมที่มีชื่อเสียง และเหมือนกับว่าพวกผมแต่งตัวใส่สูทผูกไท้ ทั้งๆ ที่พวกผมก็แต่งตัวธรรมดา ได้ของฝากมากมาย พอเสร็จก็มากินสเต๊กที่ร้านแห่งหนึ่ง ชุดละ 199 บาท
แล้วก็ลองเที่ยวจตุจักร ดูโน้น ดูนี่แบบคนไร้เป้าหมาย ดูไปสักพักก็ต้องกลับ เพราะว่าเดินไปเรื่อยๆ แบบไร้จุดหมาย แล้วถามว่าพวกผมมาทำอะไร? คำตอบคือ มาเที่ยว เดินเที่ยวครับ แต่ก็ครุ่นคิดว่าจะทำอย่างไร เเต่สุดท้ายก็ต้องกลับรถไฟใต้ดินหรือ MRT ยิงยาวจากหมอชิต มา หัวลำโพง 40 บาท แล้วก็กลับ รถไฟ รถธรรมดา 279 (กรุงเทพ-อรัญประเทศ) แล้วก็มาถึงที่สถานีชุมทางฉะเชิงเทรา ตรงเวลาตามตาราง ถามว่าทำไมถึงตรงเวลา เพราะว่าผมใส่นาฬิกา เลยพอรู้ว่าเวลากี่โมง รอบนี้ถือว่าตรง ถ้าเทียบกับครั้งก่อน บางครั้งมา 3 โมงก็มีครับ
นี่ก็เป็นเรื่องเล่าเรื่องแรกที่ได้เผยแพร่ออกไปของตัวผมเองครับ ส่วนโอกาสหน้าจะเป็นเรื่องอะไร? ก็อย่าลืมติดตามกันนะครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น